บุก พืชอาหารมหัศจรรย์ที่ดีต่อสุขภาพ / จิรวรรณ โรจนพรทิพย์

YJ2014 M03

บุก มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Amorphophallus sp. จัดอยู่ในวงศ์ Araceae เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดทางตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัย จีน ญี่ปุ่น อินโดจีน และฟิลิปปินส์ ทั่วโลกมีพืชสกุลบุกประมาณ 170 ชนิด และในประเทศไทยมีบุกอยู่ประมาณ 45 ชนิด ซึ่งคนไทยใช้ประโยชน์จากบุกมาอย่างยาวนาน โดยนำต้น ใบ และหัวบุกมาประกอบอาหารเช่น นึ่งหรือต้มรับประทาน แกงบวด ต้นอ่อนนำไปแกงหรือรับประทานเป็นผักสด หัวบุกมีสารสำคัญที่เรียกว่า กลูโคแมนแนน ซึ่งมีองค์ประกอบเป็นน้ำตาลกลูโคสและแมนโนส เมื่อสกัดเป็นผงแห้ง แล้วนำไปละลายน้ำ จะได้วุ้นใยอาหารธรรมชาติหรือวุ้นบุก ซึ่งให้พลังงานต่ำหรือไม่ให้พลังงานหากเป็นสารสกัดที่บริสุทธิ์ จึงเหมาะสำหรับเป็นอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยโรคอ้วน โรคเบาหวาน นอกจากนี้วุ้นบุกหรือกลูโคแมนแนน ยังช่วยควบคุมน้ำหนักตัว ช่วยลดไขมันอุดตันในเส้นเลือด ช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ ยับยั้งและป้องกันแบคทีเรียไวรัส ที่จะก่อให้เกิดสารพิษในลำไส้ใหญ่ ช่วยลดอาการท้องผูก ลดการเกิดโรคกระเพาะอาหาร ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ เนื่องจากวุ้นบุก สามารถขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 20 เท่า ของเนื้อวุ้นแห้ง จึงไม่ควรบริโภควุ้นบุกหลังอาหาร ควรบริโภคก่อนอาหารไม่น้อยกว่า 30 นาที.

Konjac, a scientific name of Amorphophallus sp. in Araceae family, which is one kind of annual crops, originates from the east of Himalaya range, China, Japan, Indonesia, and Philippines. There are 170 species of the konjac genus over the world. There are about 45 species of the konjac genus in Thailand. Thai people use benefits from the konjac plant for a long time by bringing the trunk, leave, and corm, such as steam, boil, and boil the sweetmeat in coconut milk. The young plant can be cooked as curry, or eaten as the fresh vegetable. The konjac corm contains the important substance called glucomannan comprising fructose and mannose. When the konjac has been extracted as powder and dissolved in water, it turns to the natural fiber jelly or konjac jelly. This jelly gives low energy or gives no energy if it is the pure extracted substance; therefore, it is suitable to be supplemental food for patients with obesity, and diabetes. Moreover, konjac or glucomannan will help control weight; reduce cholesterol; reduce colon cancer; stay and prevent toxic bacteria and virus in large intestines; reduce constipation; reduce gastrointestinal diseases and help stimulate immunity. All this is because konjac jelly can extend not less than 20 fold of its dry jelly. The konjac consumption after meals should not be eaten; however, the konjac consumption before meals not less than 30 minutes should be eaten.